
ความสงบ ความสุขของสังคมจะเกิดคนมาได้นั้น มีองค์ประกอบด้วยกันมากมายหลายปัจจัยแต่หัวใจหลักนั้นก็คือการหยิบยื่นไมตรีให้แก่กัน หรือ “การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” การทั้งการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นี้ยังเป็นเรียกได้ว่าเป็นคุณธรรมขั้นสูงในทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย ดังคำที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมเป็นปัจฉิมโอวาทไว้ว่า “จงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด” นั่นแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้อื่นโดยแท้จริง หากสิ่งใดที่พอจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ แต่ไม่ถึงขั้นช่วยเหลือผู้อื่นจนตนลำบาก แต่หากว่าใช้สติในการช่วยเหลือเพื่อเกิดประโยชน์ที่สุดต่างหาก
การมีใจเอื้อเฟื้อนั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นเอื้อเฟื้อทรัพย์ เอื้อเฟื้อสุข เอื้อเฟื้อแรงกายแรงใจ ตัวอย่างเช่นการบริจาคสร้างวัด บริจาคทุนการศึกษาหรือแม้กระทั่งการหยิบยื่นโอกาสให้ผู้อื่น หลักการแนวคิดและแนวปฏิบัติของ “การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” สามารถทำได้มากมายหลายวิธีทีการ ผมเลือกที่จะหยิบยกหลักสำคัญสามข้อนั่นก็คือ
“หลักการแรก หลักการแห่งใจถึงใจ” การเลือกที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราไว้เพื่อทราบถึงความรู้สึกของผู้อื่น เวลาที่ได้รับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างต่างเพื่อเป็นส่วนประกอบ แนวคิดในการปฏิบัติตนกับผู้อื่นรอบข้างเช่นกัน
“หลักการแห่งการให้” การเอื้อเฟื้อนี้จะเรียกกันง่ายง่ายเลยนั้นก็คือ ”การให้” การที่ทำตนให้มีความสุขในการเป็นผู้ให้มากกว่าที่จะมีความสุขกับการเป็นผู้รับ ไม่ได้เสียดายที่จะเสียผลประโยชน์ของตนเพียงเล็กน้อย ที่จะสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้อื่น
หลักการสุดท้ายคือ “หลักการเคารพ” การที่เลือกที่จะเคารพสิทธิของผู้อื่น เลือกที่จะไม่เบียดเบียน ไม่ละเมิดผู้อื่นก็นับว่าเป็นการมีจิตใจเอื้อเฟื้อไม่คิดร้ายต่อผู้อื่นได้เช่นกัน
ไม่มีคนไหนในยุคปัจจุบันนี้ที่ไม่รู้จัก “บิลเกต” เศรษฐีอันดับต้นต้นของโลกผู้มีรายได้สูงถึง สองร้อยห้าสิบเหรียญต่อวินาที หรือ ยี่สิบล้านเหรียญต่อวัน แต่บิตเกตก็เป็นผู้หนึ่งที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อจากการที่เลือกบริจาคให้มูลนิธิมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในด้านความเป็นอยู่ การศึกษา ชีวิตของคนยากไร้ทั่วโลกจนบางครั้งว่ากันว่า แม้แต่คนที่รับเงินจากบิตเกต ไม่รู้จักบิต เกตด้วยซ้ำ ล่าสุดบิตเกต ยังเลือกที่จะช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกจากการบริจาคเงินกว่า ห้าสิบล้านเหรียญให้มูลนิธิต่างต่างเพื่อช่วยเหลือ รักษาโรคนี้ นับได้ว่า บิตเกตเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับ การเอื้อเฟื้อเฟื้อแผ่เลยที่เดียว
แต่หากคิดเพียงว่า ก็บิตเกตรวยถึงทำเช่นนี้ นั่นก็ไม่ผิด แต่การให้ การเอื้อเฟื้อมิใช่เป็นเรื่องของคนรวยเพียงเท่านั้น การเอื้อเฟื้อสามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะยากดี มีจนเช่นไรขอให้จงเพียงคิดแค่ว่า การเอื้อเฟื้อคือการที่ “ผู้มีมาก แบ่งปันผู้มีน้อย” เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
การมีใจเอื้อเฟื้อนั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นเอื้อเฟื้อทรัพย์ เอื้อเฟื้อสุข เอื้อเฟื้อแรงกายแรงใจ ตัวอย่างเช่นการบริจาคสร้างวัด บริจาคทุนการศึกษาหรือแม้กระทั่งการหยิบยื่นโอกาสให้ผู้อื่น หลักการแนวคิดและแนวปฏิบัติของ “การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” สามารถทำได้มากมายหลายวิธีทีการ ผมเลือกที่จะหยิบยกหลักสำคัญสามข้อนั่นก็คือ
“หลักการแรก หลักการแห่งใจถึงใจ” การเลือกที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราไว้เพื่อทราบถึงความรู้สึกของผู้อื่น เวลาที่ได้รับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างต่างเพื่อเป็นส่วนประกอบ แนวคิดในการปฏิบัติตนกับผู้อื่นรอบข้างเช่นกัน
“หลักการแห่งการให้” การเอื้อเฟื้อนี้จะเรียกกันง่ายง่ายเลยนั้นก็คือ ”การให้” การที่ทำตนให้มีความสุขในการเป็นผู้ให้มากกว่าที่จะมีความสุขกับการเป็นผู้รับ ไม่ได้เสียดายที่จะเสียผลประโยชน์ของตนเพียงเล็กน้อย ที่จะสร้างประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้อื่น
หลักการสุดท้ายคือ “หลักการเคารพ” การที่เลือกที่จะเคารพสิทธิของผู้อื่น เลือกที่จะไม่เบียดเบียน ไม่ละเมิดผู้อื่นก็นับว่าเป็นการมีจิตใจเอื้อเฟื้อไม่คิดร้ายต่อผู้อื่นได้เช่นกัน
ไม่มีคนไหนในยุคปัจจุบันนี้ที่ไม่รู้จัก “บิลเกต” เศรษฐีอันดับต้นต้นของโลกผู้มีรายได้สูงถึง สองร้อยห้าสิบเหรียญต่อวินาที หรือ ยี่สิบล้านเหรียญต่อวัน แต่บิตเกตก็เป็นผู้หนึ่งที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อจากการที่เลือกบริจาคให้มูลนิธิมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในด้านความเป็นอยู่ การศึกษา ชีวิตของคนยากไร้ทั่วโลกจนบางครั้งว่ากันว่า แม้แต่คนที่รับเงินจากบิตเกต ไม่รู้จักบิต เกตด้วยซ้ำ ล่าสุดบิตเกต ยังเลือกที่จะช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกจากการบริจาคเงินกว่า ห้าสิบล้านเหรียญให้มูลนิธิต่างต่างเพื่อช่วยเหลือ รักษาโรคนี้ นับได้ว่า บิตเกตเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับ การเอื้อเฟื้อเฟื้อแผ่เลยที่เดียว
แต่หากคิดเพียงว่า ก็บิตเกตรวยถึงทำเช่นนี้ นั่นก็ไม่ผิด แต่การให้ การเอื้อเฟื้อมิใช่เป็นเรื่องของคนรวยเพียงเท่านั้น การเอื้อเฟื้อสามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะยากดี มีจนเช่นไรขอให้จงเพียงคิดแค่ว่า การเอื้อเฟื้อคือการที่ “ผู้มีมาก แบ่งปันผู้มีน้อย” เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น